หากพูดถึงกองหน้าของทีมชาติอุรุกวัย หลาย ๆ คนคงนึกถึง 2 กองหน้าคู่หูสุดแกร่งดีกรีฝีเท้าระดับโลกที่ได้ครองความยิ่งใหญ่มาเป็นระยะเวลายาวนาน อย่าง หลุยส์ ซัวเรส และ เอดินสัน คาวานี่ ที่เป็นนักเตะกองหน้าคนสำคัญของทีมชาติอุรุกวัย มาตลอดในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าอาจจะมีบางสนามที่นักเตะอีกคนได้มีอาการบาดเจ็บ หรือนักเตะอีกคนได้โดนสั่งแบน แต่ทีมชาติอุรุกวัยก็ไม่เคยที่จะขาดนักเตะตำแหน่งกองหน้าตัวสำคัญอย่าง 2 รายนี้ไปพร้อมกัน ถึง 2 คนเลย
แต่ทั้ง หลุยส์ ซัวเรส และ เอดินสัน คาวานี่ ในช่วงวัย 30 ปีเศษของทั้งคู่ ซึ่งนับว่าเป็นช่วงอายุปลาย ๆ ของการเล่นฟุตบอลอาชีพแล้ว นั่นก็ได้ถือว่าเป็นงานหนักของ ออสก้า ตาบาเรซ ที่ต้องคุมทีมชาติอุรุกวัยมาเป็นระยะเวลายาวนาน ตั้งแต่ ปี 2006 (เป็นช่วงก่อนที่จะมีคู่หูกองหน้า 2 คนนี้จะแจ้งเกิดเสียอีก) ทำให้ ออสก้า ตาบาเรซ ต้องรีบดำเนินการหานักเตะตำแหน่งกองหน้ารายใหม่ขึ้นมาแทนคู่หูกองหน้าทั้ง 2 คน ไม่งั้นทีมชาติอุรุกวัยคงต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากอย่างแน่ ๆ ถ้าไม่มีกองหน้าที่แข็งแกร่งสามารถทะลุประตูได้
ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมา ออสก้า ตาบาเรซ ได้พยายามที่จะให้โอกาสนักเตะอีกหลาย ๆ คน ในช่วงหลัง ๆ มา เขาก็ได้ให้โอกาสกับนักเตะดาวรุ่งใหม่ ๆ อย่าง ฟาคันโด ตอร์เรส รวมถึง ไบรอัน โรดริเกซ แต่ก็ยังไม่มีนักเตะคนไหนที่สามารถโชว์ฟอร์มที่โดดเด่นได้จริง ๆ เสียที
ในช่วงฟีฟ่าเดย์ ที่ทีมชาติอุรุกวัยต้องพบกับทีมชาติเปรู ทีมชาติอุรุกวัยขาดกองหน้าอย่างหลุยส์ ซัวเรส และเอดินสัน คาวานี่ ในการแข่งขันครั้งนี้ ออสก้า ตาบาเรซ ได้เรียก อากัสติน อัลวาเรซ นักเตะวัย20ปี เข้ามารับใช้ชาติเป็นครั้งแรก แต่ในครั้งนี้เขาก็ยังไม่มีโอกาสได้เป็นตัวจริง และในนัดที่ทีมชาติอุรุกวัย พบกับ ทีมชาติโบลิเวีย อากัสติน อัลวาเรซ ได้รับโอกาสให้ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรก ได้สวมเสื้อหมายเลข 9 ซึ่งเป็นหมายเลขในตำนานของนักเตะรุ่นพี่อย่าง หลุยส์ ซัวเรส อีกด้วย
ในการแข่งขันนัดนี้ อากัสติน อัลวาเรซ ก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง เขาได้ทำประตูแรกในนามทีมชาติได้สำเร็จ และในนัดนั้นทีมชาติอุรุกวัย ชนะ ทีมชาติโบลิเวีย ไปด้วยสกอร์ 4-2 ประตู
ในนัดที่ ทีมชาติอุรุกวัย เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของคู่แข่งคนสำคัญอย่าง ทีมชาติเอกวาดอร์ เพื่อแย่งพื้นที่ไปแข่งขันฟุตบอลโลกกันอยู่ อากัสติน อัลวาเรซ ก็ได้รับโอกาสให้ลงสนามเป็นตัวจริงเพื่อรับใช้ทีมชาติเป็นนัดที่ 2 ถึงแม้ว่าในครั้งนี้ อากัสติน อัลวาเรซ จะไม่สามารถทำประตูได้ และโดนเปลี่ยนตัวออก แต่ ทีมชาติอุรุกวัย ก็สามารถเอาชนะ ทีมชาติเอกวาดอร์ ด้วยสกอร์ 1-0 ประตู ได้ในช่วงทดเวลาเจ็บ เท่ากับว่า ในการแข่งขัน ฟีฟ่าเดย์ทั้ง 3 นัด โดยไร้เงาของ หลุยซ์ ซัวเรซ และเอดินสัน คาวานี่ แต่ทีมชาติอุรุกวัย ก็สามารถที่เก็บชัยชนะมาได้ถึง 2 นัดด้วยกัน โดยในการแข่งขันทั้ง 2 นัด ที่อากัสติน อัลวาเรซ ได้ลงสนามเพื่อรับใช้ชาติ ทีมชาติอุรุกวัยก็สามารถเก็บชัยชนะมาได้ทั้งหมด เรามาดูประวัติของ อากัสติน อัลวาเรซ กันเถอะ
อากัสติน อัลวาเรซ มีชื่อเต็มว่า คือ อากัสติน อัลวาเรซ มาร์ติเนซ เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2001 ในช่วง อากัสติน อัลวาเรซ เล่นฟุตบอลเยาวชนได้สังกัดในสโมสร เพนาโรล ของ ประเทศอุรุกวัย มาตั้งแต่ปี 2012 ก่อนที่เขาจะขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ สโมสรเพนาโรล เมื่อปี 2020 โดยในฤดูกาลนี้เขาได้ลงสนามให้กับ สโมสรเพนาโรล ทั้งหมด 24 นัด สามารถยิงประตูทำคะแนนไปได้ 10 ประตู และยังสามารถได้ลงเล่นในการแข่งขันบอลถ้วยใหญ่อย่าง โคปา ลิเบอร์ตาดอเรส อีกด้วย ถึงแม้จะเขาจะไม่สามารถทำประตูได้ก็ตาม
ซึ่งมาในฤดูกาลนี้ อากัสติน อัลวาเรซ ก็ยังสามารถทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องให้กับ สโมสรเพนาโรล โดยเขาได้ลงสนามไปแล้วทั้งหมด 14 นัดในลีก และสามารถทำไปคะแนนไปได้ถึง 8 ประตู ในส่วนการแข่งขันบอลถ้วยครั้งนี้ สโมสรเพนาโรล ได้เล่นในศึกถ้วยเล็กอย่าง โคปา ซูดาเมริกาน่า (เปรียบเสมือนการแข่งขันยูโรป้าลีก) โดย อากัสติน อัลวาเรซ ได้ลงสนามแข่งขันไปแล้วถึง 12 นัด ในบอลถ้วยนี้ เขาได้ทำคะแนนไปแล้วถึง 9 ประตู นำเป็นดาวซัลโวในถ้วย โคปา ซูดาเมริกาน่า และได้พา สโมสรเพนาโรล ผ่านเข้าถึงการแข่งขันรอบรองชนะเลิศอีกด้วย
อากัสติน อัลวาเรซ กองหน้าอนาคตไกลรายนี้ ยังได้รับความสนใจจาก สโมสรอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม แต่เนื่องจากว่าเขานั้นมีค่าฉีกสัญญาที่ค่อนข้างสูง และได้มีสโมสรฟุตบอลรีล มาดริด จับตาดู อากัสติน อัลวาเรซ อย่างใกล้ชิดเช่นกัน